HOTS
latest

728x90

468x60

Japan

Autumn/block-2
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รีวิวการเดินทาง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รีวิวการเดินทาง แสดงบทความทั้งหมด

สบาย สบาย อิน คิวชู (Kyushu)

เกาะคิวชู (Kyushu) เกาะนี้มีที่เที่ยวน่าสนใจอยู่มากมายหลายที่เลยครับ 1 ใน 4 เกาะหลักที่อยู่ใต้สุดเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่่ปุ่น ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น 
ทริปนี้เราจะพากันขับรถชมวิวแวะถ่ายรูปสวยๆหลายจุดของเกาะคิวชูตอนเหนือ
พาไปแช่อบทรายร้อนชิลๆริมทะเล
ไปเดินเล่นที่น้ำตกที่เราสามารถเข้าไปเดินลอดใต้น้ำได้ 
 พาไปนั่งรถไฟสายเฉพาะกิจชมวิว
...และไม่พลาดเแวะชิมของอร่อยๆครบ !!  "


ใครกำลังวางแพลนไปเที่ยวโซนนี้ลองดูเป็นตัวอย่างเที่ยวตามแพลนได้เลย สบายๆ


เราเดินทางด้วยการเช่ารถขับ เพื่อความสะดวกสบาย รวดเร็วในการเที่ยว ไปกัน 3-4 คนหารค่าเช่ารถกันราคาไม่แพงครับ เราเตรียมทำใบขับขี่สากลจากเมืองไทยมาเรียบร้อย แวะรับรถและขับรถเที่ยวกันเลย 




เริ่มทริปออกเดินทางจากกรุงเทพไปที่ ภูมิภาคคิวชู (Kyushu)
เดินทางไปไม่ยากเลยมีเที่ยวบินตรงจากเมืองไทยที่สนามบินดอนเมืองไปลงที่สนามบินฟุกุโอกะ (Fukuoka Airport) ด้วยสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ บินคุ้มราคาประหยัดมาถึงตอนเช้าสามารถเที่ยวต่อได้ทันทีไม่เสียเวลาครับ

BKK- FUK ไฟลท์ XJ 636 ใช้เครื่อง A330-300 ที่นั่ง 3-3-3 
ออกเดินทางเวลา 23:55 ถึงฟุกุโอกะเวลา 07:20
ขึ้นเครื่องหลับยาวตื่นมาตอนเช้าเลยครับ ใกล้ถึงแล้วเครื่องเริ่มลดระดับ...
ลงเครื่องรับกระเป๋าเรียบร้อย เราก็ไปติดต่อรับรถเช่าที่จองไว้ ทริปนี้เราจองรถของบริษัท Nippon rent a car
นั่งรถชัทเทิลบัสของบริษัทรถเช่าไปรับรถที่ศูนย์ที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน
ตรวจเช็ครับรถเรียบร้อย ทริปนี้เราได้รถ Honda Fit ผู้ร่วมทริป 3 คน กระเป๋าเดินทาง 3 ใบ
มีกระเป๋าสัมภาระของแต่ละคนอีกก็ใส่ได้สบายๆ
รีวิวทำใบขับขี่สากล

รีวิวการเช่ารถขับที่ญี่ปุ่นเพิ่มเติม
รีวิวขับรถเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ ภูมิภาคจุบุ (Chubu)
รีวิวขับรถเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ฟุคุชิมะ 2019

จุดหมายแรกของเราคือไปชิมหอยนางรม
รสชาติแห่งฤดูหนาวกันที่ร้านสไตล์คาคิโกะยะ 
คาคิโกะยะเป็นร้านอาหารที่เราสามารถทานหอยนางรม และของทะเลสดๆ
โดยทั่วไปจะเปิดให้บริการโดยตั้งเต็นท์ไว้ตามท่าเรือประมงในช่วงฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม)
จุดหมายของเราคือท่าเรือ Kishi Port ที่เมือง Itoshima
ที่นี่พื้นที่ทะเลจะถูกล้อมรอบด้วยภูเขา ทำให้สารอาหารต่างๆจากบนภูเขาไหลลงสู่ทะเล ส่งผลให้สัตว์น้ำต่างๆมีขนาดใหญ่ และที่สำคัญราคาไม่แพงจ้า

....จากสนามบินฟุคุโอกะ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็ถึงที่หมายที่นี่มีร้านให้เราเลือกนั่งหลายร้านเลย อากาศดีเย็นสบาย นั่งปิ้งย่างของทะเลสดๆฟินมากก เราเลือกนั่งทานกันที่ร้าน Ebisumaru เป็นร้านปิ้งย่างใช้เตาถ่าน ราคาไม่แพง ก่อนเข้าร้านมีชุดให้เราใส่คลุมป้องกันเปื้อนด้วย

📌ร้าน 牡蠣小屋 「恵比須丸」 糸島市 岐志漁港 Ebisumaru
Mapcode: 182 869 475*14
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Chikuzen Maebaru และขึ้นรถบัสสาย Keya Line ลงป้าย Kishi แล้วเดินไปที่ร้าน


🐚ราคาหอยนางรมสดๆราคากิโลกรัมละ 1,000 เยน หอยประเภทอื่นๆกับกุ้งจะคิดราคาเป็นตัวราคาเริ่มต้นที่ตัวละ 150-200 เยนเท่านั้น แนะนำเมนูหอยต่างๆและมีเมนูข้าวหน้าของดิบอร่อยๆต้องลองชิม
บรรยากาศดี นั่งสั่งไปำย่างได้เรื่อยๆเพลินๆลืมเวลาเลย

มิโสะซุปทำจากหอยนางรม อร่อยเข้มข้น

หอยนางรมสดๆทอดมาร้อนๆ

😁 ร้านนี้มีเมนูภาษาอังกฤษสั่งได้สบาย มีลานจอดรถอยู่หน้าร้าน จอดปุ๊บเดินเข้าร้านได้เลย แวะมาลองชิมกันพกน้ำจิ้มซีฟู๊ดมาแซ่บๆอร่อยมากบอกเลย


👉อิ่มแล้วจุดหมายต่อไปของเราไปที่ Ukiha Inari Shrine
ตั้ง Mapcode และ ออกเดินทางกันเลย
...Ukiha Inari Shrine เป็นศาลเจ้ามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและโดดเด่น
สร้างอุทิศให้กับเทพเจ้าทั้งสามของศาลเจ้า Fushimi Inari และ Matsuo Taisha ของเกียวโตรวมถึงศาล Dazaifu Tenmangu ของฟุกุโอกะที่ประดิษฐานอยู่ที่นี่

จุดเด่นของที่นี่คือเสาโทริอิที่เรียงรายอยู่บนเนินเขาสวยงามเป็นอีกจุดที่ห้ามพลาด

Mapcode: 166 560 308*41

แถววัดยังพอมีใบไม้แดงให้ชมกันนิดนึง


เดินชมถ่ายรูปกันเต็มที่แล้วออกเดินทางต่อไปเมือง Beppu
เมืองเล็กๆน่ารัก ทีเด็ดก็คือเมืองนี้มีจำนวนบ่อน้ำพุร้อนมากเป็นอันดับที่สองของโลกเลยทีเดียว เมืองเล็กๆอย่างเบบปุ เต็มไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนถึง 10 ประเภท จากทั้งหมด 11 ประเภทในโลกนี้ กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ในเมือง

...มีเพียงแค่บ่อน้ำพุร้อนที่มีแร่เรเดียมเท่านั้น ที่ไม่สามารถหาได้ในเบบปุ !

ที่เมือง Beppu มีบ่อน้ำพุร้อนทั้งแบบภายในอาคารและแบบกลางแจ้งให้เราเลือกแช่กันเต็มที่ 

มีโอกาสห้ามพลาดต้องมาลองกัน 


🏨วันนี้เราพักกันที่ Guest House Sunline Beppu เกสเฮาส์ขนาดกลางๆคนไม่พลุกพล่านอยู่ย่านใจกลางเมือง ที่สำคัญมีบ่อให้เราแช่ออนเซนกันสบายๆ

พิกัด https://goo.gl/maps/HRtV3Hj5hkd86dcL7

👌เช็คอินเรียบร้อย ออกมาเดินเล่นใกล้ๆที่พักเพื่อทานมื้อเย็น
...เดินมาเจอร้านเนื้อย่าง Yakiniku Arata
🐄สะดุดตากับป้ายว่าร้านนี้ได้ Michelin Guide ไม่รอช้าพุ่งเข้าร้านไปถามทันทีว่ามีที่ว่างไหม ได้ที่นั่งเรียบร้อยเปิดเมนูสั่งทันที🍴
ในเมนูมีเนื้อให้เลือกหลายชนิด ทีเด็ดของร้านอีกอย่างคือ แต่ละวันจะมีเนื้อที่ chef recommended แล้วแต่วันว่าจะได้เนื้อส่วนไหนที่ดีๆมา เราก็ไม่พลาด จิ้มๆสั่งมาเลย
ในเมนูมีบอกว่าเนื้อชนิดไหนควรย่างแบบไหน และทานกับอะไรถึงจะอร่อย 
เราก็บรรจงย่างทีละชิ้น และกินตามที่เชฟแนะนำไว้ 
พอคีบเข้าปากและเคี้ยว บอกเลยมันฟินสุดๆ แนะนำติดหมุดปักดาวไว้เลยร้านนี้เด็ดจริงๆครับ
อิ่มแล้วกลับที่พักแช่ออนเซ็นก่อนนอนอีกครั้ง

พิกัด Yakiniku Arata https://goo.gl/maps/efy9y3mjJwNWAWiu6


🌞เช้าวันนี้เราตั้งใจจะไปอบสปาทรายร้อนกันที่ Beppu Beach Sandbath
อยู่ไม่ไกลจากที่พัก ขับรถ แป๊บเดียวไม่ถึง 10 นาที เดินเข้าไปจ่ายเงิน รอคิวเรียก รับชุดเพื่อไปเปลี่ยนเตรียมไปอบแช่ทรายร้อนชิลๆริมทะเลสวย
ใกล้ๆกันมีบ่อสำหรับแช่ออนเซนเท้าริมทะเล นั่งแช่ไปชมวิวไปมันดีมากกก
Beppu Beach Sandbath 
Mapcode: 46 525 014*22
จุดหมายต่อไปเราจะไปเที่ยวน้ำตกกันบ้าง ที่ Nabegataki Falls อยู่เมืองโอกุนิ จ.คุมาโมโตะ
เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของจังหวัดคุมาโมโต้ ความพิเศษของน้ำตกเราสามารถเดินไปชมม่านน้ำธรรมชาติจากด้านหลังใต้น้ำตกได้ เก๋มากๆ
จุดนี้จะไม่มีรถบัสบริการต้องขับรถหรือนั่งแท๊กซี่มาเท่านั้น จอดรถเสร็จเรียบร้อย เสียค่าเข้าคนละ 200 เยน เดินลงบันไดชมวิวเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึงตัวน้ำตก Nabegataki Falls Mapcode: 202 199 105*71

มาถึงจ.คุมาโมโตะ อีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ ภูเขาอาโซะ!!
ที่นี่เป็นภูเขาไฟที่ยังสามารถปะทุได้อยู่ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นภูเขาไฟที่ยังมีโอกาสปะทุได้ตลอดเวลาขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เข้าไปเช็คสถานะของภูเขาไฟในเว็บไซต์กันก่อนจะดีที่สุด เพราะตอนที่ขับรถไปเจอปล่องนึงกำลังปะทุควันโขมงเลย และก็ไม่พลาดแวะเก็บภาพ
ช่วงที่ไป ต้นเดือนธันวาคม ถนนจะเต็มไปด้วยดอกหญ้าสีเหลืองทอง ตลอด 2 ข้างทาง สวยมากๆ ขับรถชมวิวในเส้นทาง Milk road มีจุดชมวิวสวยๆให้เราได้แวะถ่ายรูปได้ตลอดทาง แต่น่าเสียดายเส้นทางสู่ลาพิวต้า (Laputa Road) ปิดเนื่องจากดินถล่ม T^T

Aso Skyline

Mapcode: 256 872 552*71
ขับรถชมวิว แวะถ่ายรูปมาเรื่อยๆจนเย็น วันนี้เราพักกันที่ Asobe Hotel อยู่แถวๆ  Mt.Aso
ที่พักเป็นบ้าน แบ่งเป็นห้องพัก พนักงานผู้หญิงพูดดีมาก เสียงนุ่ม เบา ไพเราะจนเรารู้สึกดีแบบบอกไม่ถูก และพาเรามาแนะนำที่พักที่บ้านอีกหลังแบ่งเป็นห้องพักมี  2 ชั้น มีห้องอาบน้ำรวม ที่เป็นส่วนตัวได้ ?? 
...อย่าเพิ่งงง ห้องอาบน้ำที่นี่แบ่งเป็นห้องเล็กๆ 3 ห้อง ที่สำคัญมีบ่อออนเซ็นให้แช่ด้วย เวลาใช้เราก็แขวนป้ายด้านหน้า ก็กลายเป็นห้องแช่ออนเซ็นส่วนตัว ฟินๆ และสามารถไปใช้ห้องออนเซ็นที่บ้านหลังใหญ่ได้ด้วยนะดีมากๆแนะนำๆ
พิกัด https://goo.gl/maps/fVJgn5GVR3QAWR8V7
🌞ตื่นเช้ามาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เราจะออกไปนั่งรถไฟชมวิวกัน
Takachiho Amaterasu Railway
นั่งรถไฟขบวนเล็กชมวิวบนเส้นทางรถไฟราง Takachiho ระยะทาง 2.55 กิโลเมตร
* เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในพายุไต้ฝุ่นในปี 2005 รถไฟ Takachiho ซึ่งวิ่งระหว่าง Nobeoka และ Takachiho ประมาณ 50 กิโลเมตรหยุดทำการ ดังนั้นด้วยการสนับสนุนของพื้นที่นักลงทุนในท้องถิ่นจึงสร้างบริษัทใหม่ และเปลี่ยนแทร็กที่เลิกใช้ไปมาทำเส้นทางท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆมีทั้งลอดอุโมงค์ ลอยฟ้า พื้นรถไฟมีกระจกเพื่อชมวิวทิวทัศน์จากสะพานสูง 105 เมตรในอากาศ

รถไฟจะมาจอดที่มุมนี้เราสามารถมองเห็นหุบเขา Iwato River นาข้าวที่กว้างใหญ่ของ Takachiho ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น GIAHS นั่งรถไฟใช้เวลาประมาณ 35 นาที

ที่สถานีนี้ใครอยากลองขับรถไฟญี่ปุ่นที่นี่ทำให้ฝันคุณเป็นจริงได้จ้า เค้ามีบริการให้เราได้ไปลองขับรถไฟกันจริงๆเลยสามารถติดต่อสอบถามค่าใช้จ่ายที่สถานีได้เลย Amaterasu Railway

Mapcode: 330 772 303*03


จากนั้นไปTakachiho Gorge หรือ Takachiho Kyo ที่อยู่ใกล้ๆกัน
จากจุดจอดรถเดินตามเส้นทางเดินขนาบหุบเขา ทอดยาวไปตามแม่น้ำระยะทางประมาณหนึ่งกิโลเมตร ที่นี่เป็นหุบเขาที่มีน้ำตกชื่อ Manai no Taki
สามารถเช่าเรือนั่งพายเข้าไปดูน้ำตกแบบใกล้ได้เลย ค่าเช่า  30 นาที / 2000 เย

Takachiho Gorge Mapcode: 330 711 702*58
เขียนคำอธิษฐานแล้วผูกไว้ 100 เยน 
เดินเล่นชมวิว ถ่ายรูปกันจนเกือบหมดวัน เราก็ตีรถขับกลับไปคืนรถแถวสถานี Hakata ที่ Fukuoka เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ เราได้จองที่พักที่่ Guesthouse & Gallery HARE to KE เกสเฮาท์สไตล์ ชิคๆคูลๆ อยู่ไม่ไกลสถานีรถไฟ Hakozaki นั่งรถไฟจากสถานี Hakata 5 นาที
...ที่นี่พนักงานบริการดี ดูแลดีมาก เราเช็คอินเสร็จออกไปเดินเล่นทานข้าวกันที่สถานี Hakata กลับมาดึก เจอพนักงานหน้าสถานีรถไฟเดินกลับมาส่งเราที่ที่พักด้วย บริการดีมากตอนเช็คอินเราขอให้ที่พักช่วยโทรจองเเท๊กซี่เพื่อมารับไปส่งที่สนามบิน พนักงานยินดีโทรติดต่อนัดเวลาให้เรียบร้อย มีโอกาสต้องกลับไปพักอีกแน่นอน
พิกัด https://goo.gl/maps/vF2ZrRfGbjC4h6189
จบทริปขับรถชิลๆที่คิวชูไปแบบสวยๆ ที่พักดีราคาไม่แพง ได้ชิมอาหารอร่อยๆครบทั้งของทะเล
และเนื้อย่างอร่อยๆ ทำแพลนหลวมๆ เที่ยวสบายๆ
สามารถเที่ยวตามได้เลยไม่ยากมีเวลา 3-4 วันก็ไปเที่ยวได้สบายๆครับ